ในวันนี้ทางเว็บไซต์ มวยพักยก UFABET จะพาไปทำความรู้จัก ไทสัน ฟิวรี Tyson Fury นักมวยสากลอาชีพชาวอังกฤษ ที่กลายเป็นตำนานแห่งวงการ มวยสากล ยุคใหม่ ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ น้ำหนักมากกว่า 120 กิโลกรัม และสไตล์การชกที่พลิ้วไหวไม่ต่างจากนักมวยรุ่นเล็ก ฟิวรีไม่เพียงแต่สร้างชื่อจากชัยชนะในสังเวียนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของพลังใจที่ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้กับอาการซึมเศร้า การเสพติด หรือการกลับมาชกหลังเลิกไปหลายปี
เส้นทางอาชีพของ Tyson Fury จากนักมวยโนเนมสู่แชมป์โลกมวย
เส้นทางของ Tyson Fury ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเกิดเมื่อปี 1988 ในครอบครัวชาวยิปซีเชื้อสายไอริช ที่มีประวัติด้านการชกมวยมาอย่างยาวนาน ฟิวรีได้รับการตั้งชื่อตาม ไมค์ ไทสัน แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตในยุค 80 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแรกในการเข้าสู่เส้นทาง นักมวยสากลอาชีพ
เขาเริ่มต้นชกมวยอาชีพในปี 2008 โดยไม่มีชื่อเสียง ไม่มีสปอนเซอร์ และไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งใน แชมป์โลกมวย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ แต่ด้วยสไตล์การชกที่ชาญฉลาด ความสามารถในการหลบหลีก การเคลื่อนไหวที่เบาราวกับนักมวยรุ่นเล็ก และความมั่นใจในตัวเองที่สูงมาก ทำให้เขาค่อย ๆ ไต่อันดับขึ้นในวงการมวย
ชัยชนะครั้งสำคัญมาถึงในปี 2015 เมื่อไทสัน ฟิวรี เอาชนะ วลาดิเมียร์ คลิทช์โก แชมป์โลกผู้ครองบัลลังก์มานานกว่า 10 ปี คว้าแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 3 สถาบัน (WBA, IBF, WBO) สร้างความตกตะลึงให้กับวงการ มวยสากล ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของฟิวรีต้องหยุดลงชั่วคราวจากปัญหาชีวิตส่วนตัว ทั้งอาการซึมเศร้า การใช้สารเสพติด และการเพิ่มของน้ำหนักตัวมากกว่า 170 กิโลกรัม แต่เขากลับมาได้อย่างน่าทึ่งในปี 2018 พร้อมกับรูปร่างที่ฟิตเหมือนเดิม และหัวใจที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
ในปี 2020 เขาคว้าแชมป์ WBC โดยชนะ ดีออนเตย์ ไวล์เดอร์ และกลายเป็นนักมวยไร้พ่าย ที่ครองใจแฟนมวยทั่วโลก เส้นทางจาก “โนเนม” สู่ “ตำนาน” ของ ไทสัน ฟิวรี คือแรงบันดาลใจ ที่แท้จริงของโลกมวยบน เว็บยูฟ่า
ศึกหยุดโลก ไทสัน ฟิวรี ปะทะ ออแลกซันดร์ อูซึก ใครคือราชัน
ไฟต์หยุดโลกที่แฟน มวยสากล ทั่วโลกรอคอยจบลงอย่างดุเดือด เมื่อ ไทสัน ฟิวรี ปะทะกับ ออแลกซันดร์ อูซึก (Oleksandr Usyk) ในศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตครบทั้ง 4 สถาบัน ซึ่งจัดขึ้นที่สนาม Riyadh Kingdom Arena เมืองริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ท่ามกลางสายตาของผู้ชมทั่วโลก ที่จับจ้องว่าใครจะได้ครองตำแหน่ง “ราชันแห่งมวยสากลตัวจริง”
ก่อนไฟต์นี้ อูซึกคือเจ้าของเข็มขัด 3 สถาบัน ได้แก่ WBA, WBO และ IBF ส่วนฟิวรีคือเจ้าของแชมป์จาก WBC นี่จึงเป็นไฟต์รวมเข็มขัดแบบ “Undisputed” ที่หาได้ยากในยุคนี้ แม้อูซึกจะเสียเปรียบทั้งเรื่องส่วนสูง น้ำหนัก และช่วงชก แต่เขาใช้เทคนิคและความแม่นยำเอาชนะจุดอ่อนเหล่านั้นได้อย่างชาญฉลาด
ช่วงต้นเกมเป็นฟิวรีที่ดูคุมจังหวะได้ดี และชกเข้าเป้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการดักจังหวะอูซึก จนมีแผลแตกที่คิ้ว แต่เมื่อผ่านครึ่งทาง อูซึกเริ่มสร้างความได้เปรียบ โดยเฉพาะในยกที่ 8 และยก 9 ที่เขารัวหมัดใส่ จนฟิวรีต้องถอยหลังชนเชือก และโดนกรรมการนับ 9 อย่างเฉียดฉิว
แม้ฟิวรีจะยืนหยัดได้ครบ 12 ยก แต่อูซึกยังเดินหน้าไล่กดดันได้ต่อเนื่องจนถึงยกสุดท้าย เมื่อครบ 12 ยก ผลการตัดสินออกมาว่า ออแลกซันดร์ อูซึก ชนะคะแนนแบบไม่เป็นเอกฉันท์ 2-1 เสียง (115–113, 114–113, 113–114) คว้าแชมป์โลกครบทั้ง 4 เส้น กลายเป็นแชมป์เฮฟวี่เวต ไร้ข้อกังขาคนแรก ในรอบกว่าสองทศวรรษ
ไฟต์นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนหน้าใหม่ ของวงการ แชมป์โลกมวย เท่านั้น ทางเข้ายูฟ่าเบท แต่ยังแสดงให้เห็นถึง คลาสของทั้งสองยอดนักชก และยิ่งทำให้แฟนมวย รอคอยการรีแมตช์ ที่อาจจะยิ่งยิ่งใหญ่กว่าเดิม อีกครั้ง ในอนาคตอันใกล้
ติดตามข้อมูลประวัติ Tyson Fury และคนอื่น ๆ ได้ที่นี่
เรื่องราวของไทสัน ฟิวรี คือบทพิสูจน์ว่าแชมป์โลกไม่จำเป็นต้องเกิดมาพร้อมชื่อเสียง แต่เกิดจากหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ แม้จะเผชิญทั้งความพ่ายแพ้ในชีวิตส่วนตัว และแรงกดดันจากสังคม เขายังลุกขึ้นมาได้และสร้างประวัติศาสตร์ในวงการ มวยสากล ได้อย่างยิ่งใหญ่
หากคุณสนใจเรื่องราวแบบนี้ เรายังมีบทความ เจาะลึกเกี่ยวกับนักมวยชื่อดังคนอื่น ๆ อีกมากมายให้คุณได้ติดตาม ไม่ว่าจะเป็นอดีตแชมป์โลก หรือดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุค เข้ามาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิเคราะห์มวยวันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าบนสังเวียนนี้ ทุกหมัดล้วน มีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ
